ทำไมสาย USB บางสายถึงหนา

เมื่อวานผมได้ Post เรื่อง USB มีกี่ประเภทไปแล้ว คราวนี้ผมจะมาให้ความรู้เรื่องสาย USB ทำไมต้องหนา แล้วทำไมสาย USB 2.0 สามารถส่งกำลังไฟ 18W ได้ ทั้งที่ตามมาตรฐานทำไม่ได้ หรือแม้กระทั่ง USB C 3.1 รองรับได้ถึง 60W เพราะอะไร วันนี้เราได้รู้กันครับ

ภายในสาย USB จะมีตัว สายทองแดงด้านในประมาณ 5 เส้นหรือมากกว่านี้แล้วแต่ผู้ผลิตจะใส่มาครับ ซึ่งในบางครั้งอาจมี 5 เส้น แต่ใช้เป็นตัวนำไฟเพียง 2 เส้นเท่านั้น และสายส่ง Data อีกบางส่วน แต่ในบางครั้งเพื่อลดต้นทุน ผู้ผลิตก็ไม่ใส่สาย Data มาทำให้ชาร์จไฟได้อย่างเดียวเท่านั้น (เหมือนสายบางๆที่แถมมากับ Power Bank ที่ใช้ไม่นานก็ขาดนั่นแหละ)

สาย USB C to USB C ของ QGeeM ตัวนี้เป็นเวอร์ชั่น 3.2 สามารถรับส่งข้อมูลได้ 10 Gbps รองรับ Quick Charge 3.0 และรองรับกำลังไฟมากถึง 20V/3A หรือ 60W

ส่วนสายมีการพัฒนาตามแบตเตอรี่ครับ เนื่องจากตอน USB 2.0 ออกมาใหม่ๆ ช่วงก่อนปี 2010 แบตเตอรี่โทรศัพท์ยังไม่มากเท่าปัจจุบันจึงใช้เพียง 5V/2A (10W) ในการชาร์จ เมื่อแบตเตอรี่มากขึ้นมาตรฐาน Quick Charge จึงออกมา ในปัจจุบัน Version 3.0 หรือ 18W เป็นที่แพร่หลาย ดังนั้นจึงมีการนำทองแดงที่ยังเหลือมาใช้ หรือบางยี่ห้ออาจมีการ Design ให้สายมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ทนมากขึ้นไม่ขาดง่าย

รองรับมาตรฐาน USB C กับอุปกรณ์ต่างๆ

ส่วนสาย USB C 3.1 ขึ้นไปนั้นจะมีขนาดหนากว่า USB 2.0 เพราะต้องนำไฟฟ้าถึง 60W ครับ ซึ่งร้านเรามีจำหน่ายทั้ง USB C to USB C 3.1 Gen 1 (5 Gbps) และ USB C 3.1 Gen 2 (10Gbps) และทั้งคู่มีสายหนา แต่พหพาง่านครับ จ่ายไฟได้ 60W ชาร์จได้ตั้งแต Smart Phone จนถึง Laptop เลยทีเดียว และเป็นสายที่ทนมากๆอีกด้วย

สาย 60W สามารถชาร์จโน้ตบุ้คได้ครับ

#สายชาร์จ #USBC #DataSynce #สายรับส่งข้อมูล #อุปกรณ์ไอที #2beasyshop